วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ครั้งที่ 16

Science Experiences management for Early childhood


EAED3207 การจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย

Timetable 08.30-12.20 Group 101 No. 30


2 December 2014


กิจกรรมการเรียนการสอนในครั้งนี้

ในการเรียนการสอนครั้งนี้เป็นการเรียนครั้งสุดท้าย รายวิชานี้ในปีการศึกษาที่ 1/2557

การเรียนการสอนครั้งนี้อาจารย์ได้สรุปองค์ความรู้ตลอดทั้งเทอม

พร้อมทบทวนและเก็บตกชิ้นงาน การนำเสนอต่างๆ

ซึ่งครั้งนี้ได้มีการนำเสนอวิจัย 1 เรื่อง คือ...

เรื่อง การส่งเสริมทักษะวิทยาศาสตร์การลงสรุปสำหรับเด็กปฐมวัย





เมื่อเสร็จจากการนำเสนอวิจัย อาจารย์ก็ได้แบ่งกลุ่มตามการเขียนแผน

ให้ทำแผ่นประชาสัมพันธ์การเรียนรู้ตามหน่วยต่างๆของเด็ก

ซึ่งกลุ่มของผมได้ทำหน่วยการเรียนรู้ เรื่องกล้วย (BANANA)

ผลงานของกลุ่มผมที่ทำกันออกมา ดังรูปภาพล่างนี้






ภาคผนวก : หลังจากการเรียนครั้งนี้ผมได้หากรอบมาตรฐานวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย

มาเพิ่มเติมเพื่อเป็นความรู้ในการที่จะไปสอนเด็กปฐมวัยในอนาคต



 การประเมินผล

      ตนเอง ME : ให้ความร่วมมือในการเรียนการสอนดีมาก มีการตอบคำถาม  

แสดงความคิดเห็นในการทำกิจกรรมกลุ่ม แต่งกายเรียบร้อย เข้าเรียนตรงต่อเวลา โดยรวม

การเรียนครั้งนี้ถือว่า มีความตั้งใจดีมาก

    
     เพื่อน FRIEND : มีความตั้งใจในการเรียนดี สนใจการทำกิจกรรมทุกคน ให้ความร่วมมือ

ในการเรียนการสอน แต่งกายถูกระเบียบ  โดยรวมมีความตั้งใจ/สนใจดีมาก


    อาจารย์ TEACHER : เข้าสอนตรงต่อเวลาดีมาก มีการสรุปทบทวนความรู้ให้นักศึกษา

พร้อมมีกิจกรรมที่น่าสนใจให้นักศึกษาได้ปฏิบัติ และสิ่งที่อาจารย์สอนในครั้งที่สามารถ

นำไปใช้ในอนาคตได้อย่างแน่นอน ถือได้ว่า คุ้มค่ามากๆเลยครับ โดยรวมการสอนครั้งนี้

ดีมากที่สุดเลยครับ



ขอขอบพระคุณอาจารย์จินตนา สุขสำราญ (อาจารย์จ๋า) ที่ให้ความรู้ หลักการจัดกิจกรรม วิธีการสอน

สำหรับเด็กปฐมวัยที่มีความหลากหลาย น่าสนใจ และสามารถนำไปใช้ได้จริงที่ให้กับพวกเราทุกคน

พวกเราขอสัญญาว่า..พวกเราจะนำไปใช้กับเด็กให้เกิดประโยชน์สุงสุดและทำให้เด็กเกิดความสนใจ 

ในการเรียน เราจะทำให้เด็กมีประสิทธิภาพและได้รับการพัฒนาการครบถ้วนทั้ง 4 ด้าน

ขอบคุณครับ..

วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ครั้งที่ 15

Science Experiences management for Early childhood

EAED3207 การจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย


Timetable 08.30-12.20 Group 101 No. 30


27 November 2014




กิจกรรมการเรียนการสอนในครั้งนี้


             ในการเรียนครั้งนี้อาจารย์ได้ให้นำเสนอวิจัยและโทรทัศน์ครู โดยสามารถสรุปความรู้

เป็น mind mapping ได้ดังนี้


       วิจัยเรื่องที่ 1 เรื่อง การสร้างชุดกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

สำหรับเด็กปฐมวัย  (Creating a series of activities to develop science process skills for preschool

children.)





       วิจัยเรื่องที่ 2 เรื่อง ผลการจัดประสบการณ์หน่วยวิทยาศาสตร์นอกชั้นเรียนที่มีผลต่อ

การสังเกตของเด็กปฐมวัยวัย(The Effects of Social Sciences experiences outside the classroom 

that affect the observation of the child ages.)






วิจัยเรื่องที่ 3 เรื่อง การคิดเชิงเหตุผลของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมพื้นฐาน


ทางวิทยาศาสตร์ (Logical thinking of children who have been organized scientific basis.)







วิจัยเรื่องที่ 4 เรื่อง ผลของการจัดกิจกรรมการทดลองที่มีผลต่อทักษะวิทยาศาสตร์


ด้านการสังเกตและการจำแนกของเด็กปฐมวัย (Effects of experimental activities affecting 

science skills of observation and classification of early childhood.)







โทรทัศน์ครู Thai Teacher T.V.


จากการฟังเพื่อนนำเสนอหน้าชั้นเรียนสามารถสรุปโทรทัศน์ครูโดยการยกตัวอย่าง

หน่วยการเรียนรู้ เรื่องที่สอนเด็ก สื่อที่ใช้ การจัดกิจกรรมต่างๆที่ส่งเสริมทักษะทางวิทยาศาสตร์

เป็น Mind mapping ด้านล่างนี้







           เมื่อนำเสนอโทรทัศน์ครูเสร็จอาจารย์ได้ทบทวนและตรวจสอบแผนการสอนของแต่ละ

กลุ่มอีกครั้งเพื่อความถูกต้อง จากนั้นมีการบอกแนวข้อสอบเล็กน้อยเพื่อให้นักศึกษามีการ

เตรียมตัวสอบปลายภาค


การประเมินผล


        ตนเอง ME : ในการเรียนครั้งนี้ตนเองมีสมาธิในการเรียนดีมาก ไม่พูดคุยหรือเล่น

ขณะเพื่อนนำเสนอ แต่ครั้งนี้อาจมีการตอบคำถามอาจารย์ค่อนข้างน้อย โดยรวมถือว่า

มีความสนใจและให้ความร่วมมือในการเรียนเป็นอย่างดี

        
        เพื่อน FRIEND : มีการเตรียมความพร้อมในการออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียนค่อนข้างดี

อาจขาดทักษะในการตอบคำถาม บางส่วนอาจหาเนื้อหามาไม่ครบถ้วน ในขณะการถามตอบ

มีการตอบคำถามบ้าง ภาพรวมค่อนข้างดี อาจมีพูดคุยบ้างเล็กน้อย


        อาจารย์ TEACHER : อาจารย์ให้คำแนะนำในการจัดกิจกรรมจากการนำเสนอวิจัยและ

โทรทัศน์ครูเป็นอย่างดี มีการสะท้อนกิจกรรมให้เห็นว่าควรจัดอย่างไรจึงจะเหมาะสม

จัดอย่างไรเด็กจะเกิดประโยชน์กับเด็ก ทั้งนี้อาจารย์ก็ได้มีการสรุปทบทวนเพื่อให้นักศึกษา

เกิดความเข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยภาพรวมครั้งนี้ อาจารย์ให้ความรู้นักศึกษาอย่างครบถ้วน

การสอนน่าสนใจ มีความใส่ใจนักศึกษาเป็นอย่างดี ไม่มีข้อที่ควรปรับปรุงใดๆ 

โดยรวม..ประทับใจครับ 

วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ครั้งที่ 14


Science Experiences management for Early childhood



EAED3207 การจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย

Timetable 08.30-12.20 Group 101 No. 30

20 November 2014


กิจกรรมการเรียน/การสอนในครั้งนี้



วันนี้อาจารย์ได้ให้แบ่งประเภท ของเล่น/สื่อวิทยาศาสตร์ สำหรับเด็กปฐมวัย 

โดยสามารถแบ่งตามประเภทเป็น Mind mapping  ได้ดังนี้




ประเภทของเล่น/สื่อวิทยาศาสตร์ Types of toys / materials science


1.การเกิดจุดศูนย์ถ่วง/จุดสมดุล แสง the center of gravity / balance point

2.การเกิดเสียง The noise

3.การใช้แรงดันลม/อากาศ The pressure / air.

4.การใช้แรงดันน้ำ The use of water pressure

5.การใช้พลังงาน/การเกิดแรง Use of power / force.

6.จัดเข้าตามมุม Prepare for the Day



การนำเสนอวิจัยในเรื่องต่างๆ


 สามารถสรุปเนื้อหาเป็น Mind mapping ได้ดังนี้



ลำดับที่ 1 นางสาวชนากานต์ มีดวง 









ลำดับที่ 2 นางสาวสุธิดา คุณโตนด

เรื่อง ผลการบันทึกประสบการณ์วิทยาศาสตร์ที่มีต่อความสามารถด้านมิติสัมพันธ์






ลำดับที่ 3 นางสาวธิดารัตน์  สุทธิพล







ลำดับที่ 4 นางสาวธนภรณ์ คงมนัส

เรื่อง ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับประสบการณ์จากการใช้







กิจกรรม Cooking วอฟเฟิล


      การทำกิจกรรม Cooking ในครั้งนี้อาจารย์ได้มีการแบ่งกลุ่มโดยแบ่งให้เด็กมีจำนวน

เท่าๆกันโดยแบ่งเป็น 6 กลุ่ม จากนนั้นให้ตัวแทนกลุ่มออกไปรับอุปกรณ์เพื่อนำมาประกอบ

การทำกิจกรรม โดยมี วัสดุ/อุกรณ์ ดังนี้

1.แป้ง powder

2.เนย butter

3.ไข่ไก่ 1 ฟอง egg

4.น้ำ water

5.ถ้วย 2 ขนาด (ถ้วยตวงขนาดเล็ก/ถ้วยที่ใช้ในการผสม) 2 cup sizes (small cup / bowl used to mix)

6.ช้อน หรือ ที่ใช้ตีในการผสมแป้ง Use a spoon or a beat in the flour mixture

     


   เมื่อได้รับส่วนผสมและอุปกรณ์ครบแล้ว จากนั้นอาจารย์ก็ให้แต่ละกลุ่มเริ่มผสมแป้ง

ตอกไข่ ใส่เนย เติมน้ำทีละนิด พร้อมคนให้เข้ากันจนได้เนื้อแป้งที่ไม่เหลวและไม่แข็งเกิน







    เมื่อผสมแป้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตักแป้งใส่ถ้วยตวงถ้วยเล็กเพื่อนำไปอบ (หากต้องการให้

วอฟเฟิลมีขนาดแผ่นที่พอดีควรเทแป้งลงเครื่องอบช่องละประมาณ 1 ถ้วยครึ่ง) ขณะที่เทแป้ง

ลงเครื่องอบนั้น ควรเทจากตรงกลางเครื่องเพื่อให้แป้งกระจายทั่วเครื่องไม่แตกจากกัน

เมื่ออบเสร็จเราก็จะได้วอฟเฟิลที่มีหน้าตาที่น่ากิน และ แสนอร่อย




เมนูนี้ทำได้ง่าย สะดวก อร่อย ประทับใจสุดๆครับ :)


การประเมินผล

      ตนเอง ME : เข้าเรียนตรงต่อเวลา มีจิตสาธารณะในการช่วยอาจารย์ยกของ มีความสนใจ

ตั้งใจเรียนดีมาก มีการตอบคำถามอาจารย์อย่างสม่ำเสมอ ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม

โดยรวมการเรียนของตนเองวันนี้ ถือว่า ดีมาก

      
     เพื่อน FRIEND : เข้าเรียนตรงต่อเวลาทุกคน ส่งงานกันครบอาจมีบางคนต้องปรับปรุงบ้าง

ตั้งใจเรียนและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมกันดีมาก มีการแสดงความเห็นในการทำ

กิจกรรมร่วมกัน มีการถาม-ตอบอาจารย์บ้างบางคน มีส่วนน้อยที่พูด/เล่นกันในขณะอาจารย์ 

หรือเพื่อนพูดหน้าชั้นเรียน สรุปการเรียนของเพื่อนครั้งนี้ ดีมาก

    
     อาจารย์ TEACHER : อาจารย์มีความพร้อมในการเตรียมสื่อการสอนมาอย่างครบถ้วน

มีรูปแบบการสอนที่โดดเด่น น่าสนใจ ทำให้นักศึกษาสนใจในการเรียน มีการชี้แจงให้ความรู้

ประกอบการนำเสนอวิจัยอบ่างชัดเจน มีการเปรียบเทียบเพื่อการนำไปใช้ในการสอน

เด็กปฐมวัยให้มีประสิทธิภาพ พร้อมเทคนิคต่างๆที่สามารถนำไปใช้ได้จริง สำหรับการสอน

ของอาจารย์ในครั้งนี้ ถือว่าประทับใจมากครับ เพราะ มีข้อคิด ความรู้ เทคนิค วิธีการต่างๆที่ให้

นักศึกษาสามารถนำไปประยุกต์ ปรับใช้ในการสอนเด็กปฐมวัยให้เกิดประโยชน์สูงสุุด

วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ครั้งที่ 13

Science Experiences management for Early childhood

EAED3207 การจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย

Timetable 08.30-12.20 Group 101 No. 30

13 November 2014


กิจกรรมการเรียน/การสอนในครั้งนี้

       วันนี้อาจารย์ได้ให้นำเสนอวิจัยในเรื่องต่างๆโดยสามารถสรุปเป็น Mind mapได้ดังนี้




นำเสนอโดย นางสาวกมลพรรณ แสนจันทร์


                ชื่อวิจัย : การส่งเสริมทักษะการสังเกต โดยใช้การจัดกิจกรรม เกมการศึกษา




นำเสนอโดย นางสาวกมลกาญจน์ มินสาคร




นำเสนอโดย นางสาวนฤมล บุญคงชู




นำเสนอโดย นางสาวปานัดดา อ่อนนวล






นำเสนอโดยกระผมเอง นายธนารัตน์ วุฒิชาติ



นำเสนอโดย นางสาวชันฐถ์นันท์ แสวงชับ





นำเสนอโดย นางสาวไลลา คนรู้





การประยุกต์/นำไปใช้ (Application / use)

           สามารถนำความรู้ หลักการ/วิธีการในการจัดกิจกรรมเพื่อเสริมทักษะกระบวนการทาง

วิทยาศาสตร์ที่ได้รับจากการฟังวิจัยเรื่องต่างๆไปประยุกต์ ดัดแปลงหรือนำไปใช้ในการสอน

เด็กปฐมวัยและเป็นแนวทางในการส่งเสริมให้เด็กได้รับความรู้ ทักษะ กระบวนการทาง

วิทยาศาสตร์อย่างครบถ้วน


การประเมินผล  (Evaluation)

           ตนเอง Me : การนำเสนอวิจัยของตนเองในครั้งนี้ถือว่ามีการเตรียมความพร้อมมา

ค่อนข้างดี มีการตอบคำถาม อธิบายและยกตัวอย่างในการนำเสนอวิจัยอาจารย์ได้

สนใจการนำเสนอวิจัยของเพื่อน เข้าเรียนตรงต่อเวลา ให้ความร่วมมือในการเรียนดี

          เพื่อน Friend : สนใจเรียนดี มีการเตรียมการนำเสนอวิจัยที่ดีอาจมีบางส่วนขาด

ความพร้อมในการนำเสนอ มีการยอมรับฟังข้อเสนอแนะของอาจารย์เพื่อนำไปปรับปรุง

อาจมีบ้างเล็กน้อย พูด/คุยขณะเพื่อนนำเสนอวิจัย

         อาจารย์ Teacher : มีการอธิบาย ชี้แจงให้ความรู้เพิ่มเติมในการนำเสนอวิจัยของเพื่อน

เพื่อให้นักศึกษาเกิดความเข้าใจง่ายขึ้น พร้อมยกตัวอย่างที่สอดคล้องกับงานวิจัย และมีการ

ให้คำแนะนำ/ข้อเสนอแนะคนนำเสนอวิจัย เพื่อนำไปปรับปรุงการนำเสนอครั้งต่อไป 

โดยรวมการรียนการสอนของอาจารย์ครั้งนี้ ดีมาก

วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ครั้งที่ 12

Science Experiences management for Early childhood

EAED3207 การจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย


Timetable 08.30-12.20 Group 101 No. 31


6  November 2014




กิจกรรมการเรียน/การสอนในครั้งนี้

          วันนี้อาจารย์ได้ให้แต่ละกลุ่มนำเสนอการสอนกิจกรรมเสริมประสบการณ์ทาง

วิทยาศาสตร์ ตามหัวข้อดังนี้





กลุ่มที่ 1 สอนในรื่องชนิดของกล้วย (kinds of bananas)





กลุ่มที่ 2 สอนเรื่องลักษณะของไก่ (Appearance of chicken )






กลุ่มที่ 3 สอนเรื่องการดำรงชีวิตบองกบ (The life of a frog)






กลุ่มที่ 4 สอนเรื่องประโยชน์และข้อพึงระวังจากปลา (Benefits and risks of fish.)







กลุ่มที่ 5 สอน Cooking ข้าวคลุกไข่ (Fried rice with eggs)







กลุ่มที่ 6 สอนเรื่องชนิดของต้นไม้  (Types of trees)







กลุ่มที่ 7 สอนเรื่องลักษณะของนม/ทดลองนมเปลี่ยนสี

(Characteristics of milk / milk color experiments.)






กลุ่มที่ 8 สอนเรื่องการดูแล/รักษาน้ำ (Maintenance / Water Treatment)






กลุ่มที่ 9 สอนเรื่องวิธีการปลูกต้นมะพร้าว/การขยายพันธ์ุ

(How to plant a coconut tree / the breed)





กลุ่มที่ 10 สอน cooking สลัดผลไม้ (Fruit Salad)



การประเมินผล (Evaluation)


                    ตนเอง Me : เข้าเรียนตรงต่อเวลา มีความสนใจในการเรียนดี มีการให้ความร่วมมือ

ในการนำเสนอการสอนของเพื่อนกลุ่มอื่นๆ จดบันทึกและสรุปการจัดกิจกรรมของเพื่อนทุกกลุ่ม


                    เพื่อน Friend : ตั้งใจเรียนกันดีมาก มีการให้ความร่วมมือและช่วยเหลือซึ่งกันและ

กัน ตั้งใจรับฟังการให้คำแนะนำจากอาจารย์ โดยรวม ดี


                    อาจารย์ Teachers : เข้าสอนตรงต่อเวลา แต่งกายเหมาะสมและสุภาพ มีการทำ

ข้อตกลงร่วมกับนักศึกษาก่อนการนำเสนอกิจกรรม ให้คำแนะนำในการสอนและบอกวิธีการ

เสริมด้านต่างๆเพื่อให้นักศึกษาปรับปรุงให้ดีขี้น โดยรวมการสอนวันนี้ ประทับใจมากครับ :)

สรุปความรู้จากโทรทัศน์ครู Thai teachers TV

        Thai Teachers TV โทรทัศน์ครู : สร้างพื้นฐานการเรียนรู้กับกิจกรรม 5 ประสาทสัมผัส 

      สรุปความรู้ ที่ได้รับจากการโทรทัศน์ครู เรื่องการสร้างฐานการเรียนรู้กับกิจกรรม 5 ประสาทสัมผัส

การจัดการเรียนการสอนระดับปฐมวัย เป็นการเตรียมความพร้อมให้เด็กในทุกๆด้าน ได้แก่ ด้านร่างกาย 

ด้านอารมณ์-จิตใจ ด้านสังคม และด้านสติปัญญา โดยครูจะใช้ของจริงเพื่อเน้นและกระตุ้นที่จะใช้

ประสาทสัมผัสทั้ง 5 คือ ตา-ดู หู-ฟัง จมูก-ดมกลิ่น ลิ้น-ชิมรส กาย-สัมผัส

ขั้นตอนที่การใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5

ประสาทสัมผัสที่ 1 การมอง

เมื่อเด็กเห็นของจริง เด็กจะซึมซับในสิ่งที่เด็กเห็น เช่น เล็ก ใหญ่ เป็นต้น

ประสาทสัมผัสที่ 2 การฟัง

เด็กได้เปรียบเทียบเสียงจากกระบอกเสียงและเปลือกหอย

ประสาทสัมผัสที่ 3 การสัมผัส

 เด็กได้สัมผัสจากสื่อของจริงที่ครูจัดให้ เริ่มต้นจากรูปทรงเรขาคณิต จนไปถึงเนื้อผ้าที่มีความละเอียด
ต่างกัน

ประสาทสัมผัสที่ 4 การดมกลิ่น

ครูให้เด็กได้ดมกลิ่น 4 กลิ่น เด็กได้ดมกลิ่นเองและสามารถบอกครูได้ว่าสิ่งที่ดม มีกลิ่นอะไรบ้าง

ประสาทสัมผัสที่ 5 การสัมผัส

เด็กได้ชิมรส ซึ่งมี 4 รสชาด คือ รสเค็ม เปรี้ยว หวาน และขม เด็กได้เกิดการเรียนรู้ โดยนำสิ่งที่เด็กชิม ไป
เปรียบเทียบกับประสบการณ์เดิมที่เด็กเคยได้รับประสบการณ์มา

***หัวใจสำคัญในเรื่องประสาทสัมผัสทั้ง 5 เพื่อเตรียมความพร้อมที่เด็กจะได้เรียนรู้ในขั้นที่สูงต่อไป
และประสาทสัมผัสทั้ง 5 เป็นองค์ประกอบหลักในการได้รับการจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย



สรุปวิจัย

ชื่องานวิจัย ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมศิลปสร้างสรรค์แบบเน้นกระบวนการ


ปริญญานิพนธ์ ของ ชนกพร ธีระกุล

      การศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นวิจัยเชิงทดลอง ซึ่งมุ่งศึกษาเปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 

ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์แบบเน้นกระบวนการ และแบบปกติ ซึ่งสรุปขั้น

ตอนการศึกษาตามลำดับ ดังนี้


จุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า

      เพื่อเปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมศิลป

สร้างสรรค์แบบเน้นกระบวนการและแบบปกติ


สมมติฐานในการศึกษาค้นคว้า

     เด็กปฐมวัยที่รับการจัดกิจกรรมศิลปสร้างสรรค์แบบเน้นกระบวนการ และที่ได้รับการจัดกิจกรรมศิลปะ

สร้างสรรค์แบบปกติ มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์แตกต่างกัน


ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า

การศึกษาครั้งนี้ มีขอบเขตการศึกษา ดังนี้

      1.ประชากร ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ เด็กนักเรียนชาย-หญิง อายุ 3 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้น

อนุบาลปีที่ 1 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2540 จำนวน 3 ห้องเรียน ห้องเรียนละ 30 คน ของโรงเรียน

อนุบาลกุ๊กไก่ เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน

    2.กลุ่มตัวอย่าง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ เด็กนักเรียนชาย-หญิง อายุ 3 ปี ที่กำลังศึกษา

อยู่ชั้นอนุบาลปีที่ 1 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2540 โรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ เขตพระโขนง 

กรุงเทพมหานคร สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน จำนวน 1 ห้องเรียน มีจำนวนทั้งสิ้น 30 

คน ซึ่งได้มาโดยมีการสุ่มอย่างง่าย(Simple Random Sampling)


เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า

การศึกษาค้นคว้านี้มีเครื่องมือในการศึกษาครั้งนี้

1.แผนการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ ซึ้งผู้วิจัยสร้างขึ้นประกอบไปด้วยชื่อกิจกรรม จุดประสงค์ ขั้นตอน

การดำเนินกิจกรรม ชื่อวัสดุอุปกรณ์ และประเมินผล โดยแผนการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์

แบ่งเป็น 2 แบบ ได้แก่

1.1.แผนการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์แบบเน้นกระบวนการ ซึ่งผู้วิจัยสร้างขึ้นจำนวน 40 แผน

1.2.แผนการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์แบบปกติ ซึ่งใช้ตามแผนการจัดประสบการณ์ชั้นอนุบาลที่ 1 

เล่ม1 ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน พ.ศ.2539 โดยผู้วิจัยได้คัดเลือกกิจกรรมให้

สอดคล้องกับกิจกรรมศิลปสร้างสรรค์แบบเน้นกระบวนการ จำนวน 40 แผน

2.แบบทดสอบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ผู้วิจัยสร้างขึ้น เป็นแบบทดสอบที่ใช้คำถามที่เป็น

รูปภาพชนิด 3 ตัวเลือก และแบบทดสอบภาคปฏิบัติรวมทั้งสิ้นจำนวน 6 ชุด ดังนี้

2.1.แบบทดสอบที่เป็นรูปภาพมี 5 ฉบับ คือ

2.1.1.แบบทดสอบวัดทักษะการสังเกต จำนวน 8 ข้อ

2.1.2.แบบทดสอบวัดทักษะการจำแนก จำนวน 8 ข้อ

2.1.3.แบบทดสอบวัดทักษะการแสดงปริมาณ จำนวน 8 ข้อ

2.1.4.แบบทดสอบวัดทักษะการลงความคิดเห็น จำนวน 5 ข้อ

2.1.5.แบบทดสอบวัดทักษะการหามิติสัมพันธ์ จำนวน 8 ข้อ

2.2.แบบทดสอบภาคปฏิบัติมี 2 ฉบับ คือ

2.2.1 แบบทดสอบวัดทักษะการสื่อความหมาย จำนวน 8 ข้อ

2.2.2 แบบทดสอบวัดทักษะการลงความเห็น จำนวน 5 ข้อ

       จากนั้นทำแบบทดสอบ ซึ่งผ่านการตรวจแก้ไขจากผู้เชี่ยวชาญ และผ่านกระบวนการวิเคราะห์หา

คุณภาพด้านความยากง่าย(p) ได้ค่าระหว่าง .40 - .80 ค่าอำนาจจำแนก(D) ตั่งแต่ .25 ขึ้นไป และหาค่า

ความเชื่อมั่น โดใช้วิธีของคูเดอร์-ริชาร์ดสัน(Kuder-Richardson) ที่คำนวณจากสูตร KR-20 ได้ค่าความ

เชื่อมั่นทั้งฉบับ .90


สรุปผลการศึกษาค้นคว้า

     เด็กปฐมวัยที่ได้รับ การจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์แบบเน้นกระบวนการและเด็กปฐมวัยที่ได้รับ     

 การจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์แบบปกติ มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แตกต่างกันอย่างมีนัย

สำคัญ คือ

     1.เด็กที่ได้รับการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์แบบเน้นกระบวนการ จะมีทักษะทางวิทยาศาสตร์

มากกว่าเด็กที่ได้รับการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์แบบปกติ เพราะ การจัดกิจกรรมแบบเน้นกระบวนการ 

เป็นการเปิดโอกาสให้เด็กได้ปฏิบัติกิจกรรมทุกขั้นตอน โดยผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า ในการสังเกต 

เปรียบเทียบ ทดลอง และลงมือด้วยตนเอง ซึ่งตรงกับความเห็นของ จอห์น ดิวอี้ ที่ว่า การเรียนรู้เกิดจาก

การกระทำ (Learning by Doing)

     2.การจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ ในการวิจัยครั้งนี้มี 2 แบบ ได้แก่ การจัดแบบปกติ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่

ครู เป็นผู้จัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำกิจกรรมศิลปะต่างๆ ไว้ให้จนเสร็จแล้วจึงนำสิ่งเหล่านั้นมา

ให้เด็กสร้างงานศิลปะต่างๆตามความต้องการของเด็ก และแบบที่2 คือแบบเน้นกระบวนการ เป็นกิจกรรม

ที่เด็กมีส่วนร่วมในการปฏิบัติกิจกรรมทุกขั้นตอน เช่น การเตรียมแป้งโด เด็กจะเรียนรู้ทักษะทาง

วิทยาศาสตร์ โดย การสำรวจลักษณะ สี รูปร่าง และขนาดของวัสดุอุปกรณ์ทำให้เด็กได้ทักษะการสังเกต 

การจำแนก การเปรียบเทียบและการแสดงปริมาณ เด็กได้รับรู้เกี่ยวกับสี ลักษณะ และสถานะของแป้งกับ

น้ำก่อนที่จะผสมกัน

     ซึ่งกระบวนการเหล่านั้นมีความสำคัญต่อการพัฒนาทักษะทางวิทยาศาสตร์อย่างมาก และตรงกับ

ความคิดของ นิวแมน (Nueman) ที่ว่า การจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์

สำหรับเด็กปฐมวัย ควรเน้นกระบวนการมากกว่าผลผลิต


    ดังนั้นจะเห็นได้ว่า กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์แบบเน้นกระบวนการช่วยให้เด็กได้รับประสบการณ์ เกิด

การเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ประสบการณ์ที่เด็กได้รับนั้นควรเป็นประสบการณ์ตรง เพราะ ประสบการณ์ตรง

จะช่วยสนับสนุนให้เด็กได้วิเคราะห์ ทดลองหรือลงมือกระทำด้วยตนเอง เป็นการเรียนรู้ด้วยการกระทำ 

(Learning by Doing) ค้นพบความรู้ใหม่ด้วยตนเอง ซึ่งจะทำให้เด็กเกิดความเข้าใจและสามารถจดจำ

ได้นาน

วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ความลับของอากาศ

  
"สรุปจากกการชม วีดีโอ ความลับของอากาศ"


      อากาศ (atmosphere) คือ ส่วนผสมของก๊าซต่าง ๆ และไอน้ำซึ่งส่วนใหญ่ได้แก่

 ก๊าซไนโตรเจน และก๊าซออกซิเจน นอกนั้นเป็นก๊าซอื่น ๆ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนน้อย อากาศมีอยู่

รอบ ๆ ตัวเราทุกหนทุกแห่ง ทั้งบนยอดสูงสุดของภูเขาและในที่จอดรถใต้ดิน อากาศมีอยู่ใน

บ้าน มีอยู่ในโรงเรียนและในรถยนต์ อากาศไม่มีสี ไม่มีรสชาติ และไม่มีกลิ่น



    อากาศที่ไม่มีไอน้ำเรียกว่า อากาศแห้ง ส่วนอากาศที่มีไอน้ำปนอยู่ด้วย เรียกว่า อากาศชื้น 

ไอน้ำที่มีอยู่ในอากาศมีอยู่ระหว่างร้อยละ 0-4 ของอากาศทั้งหมด ไอน้ำเป็นส่วนผสมที่สำคัญ

ของอากาศ และไอน้ำก็เป็นสาเหตุของการเกิดปรากฏการณ์ต่างๆ เช่น ลม พายุ ฟ้าแลบ 

ฟ้าร้อง รุ้งกินน้ำ เป็นต้น


สมบัติของอากาศ   (Properties)

1.อากาศมีตัวตนและสัมผัสได้

2.อากาศมีน้ำหนัก

3.อากาศต้องการที่อยู่

4.อากาศเคลื่อนที่ได้ และเมื่ออากาศได้รับความร้อนจะขยายตัว ลอยตัวสูงขึ้น ทำให้ความหนา

แน่นของอากาศบริเวณนี้ลดลง อากาศบริเวณใกล้เคียงที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าความหนาแน่น

มากกว่าจะเข้ามาแทนที่ ซึ่งเรียกว่า การเคลื่อนที่ของอากาศหรือลม



    อากาศ จะเกิดการเคลื่อนที่อยู่เสมอ บางเวลาเคลื่อนที่น้อย แต่บางเวลาเคลื่อนที่มาก ทำให้

เกิดการเปลี่ยนแปลงอากาศขึ้น ซึ่งเราสามารถสังเกตได้ง่ายๆ เช่น มีลมพัด มีเมฆ มีฝนตก 

เป็นต้น

    ถ้าอุณหภูมิสองบริเวณมีความแตกต่างกันมาก จะทำให้ความหนาแน่นของอากาศสอง

บริเวณนั้น ทำให้เกิดลมที่มีกระแสลมพัดมีความเร็วสูง เรียกว่า พายุ ชื่อภาพยุนั้นจะเรียกแตก

ต่างไปตามแหล่งทวีปโลก และตามความรุนแรงของพายุที่เกิดขึ้น ถ้ารุนแรงมากอาจทำให้เกิด

ความเสียหายมากขึ้น เช่น เกิดน้ำท่วมอย่างรุนแรง บ้านเรือนพังทลาย ประชากรเสียชีวิตเป็น

จำนวนมาก

     อุณหภูมิ (temperature) คือ ระดับความร้อนหนาวของอากาศ ถ้าอากาศหนาวอุณหภูมิจะลด

ต่ำลง ถ้าอากาศร้อนอุณหภูมิจะสูงขึ้น เครื่องมือที่ใช้วัดอุณหภูมิหรือระดับความร้อนหนาวของ

สิ่งต่างๆ คือ เทอร์โมมิเตอร์ หน่วยของอุณหภูมิใช้หน่วยเป็นองศาเซลเซียส และองศฟาเรนไฮต์


     เทอร์โมมิเตอร์ (thermometer) มีลักษณะคล้ายหลอดแก้ว หัวท้ายปิดมีกระเปาะเล็กๆ อยู่ปลาย

ด้านหนึ่งภายในกระเปาะบรรจุของเหลว เมื่ออากาศร้อนของเหลวจะขยายตัว ทำให้ระดับ

ของเหลวสูงขึ้น เราเรียกว่า อุณหภูมิสูง แต่ถ้าอากาศหนาวของเหลวจะหดตัว ระดับของเหลวจะ

ลดลง เรียกว่า อุณหภูมิต่ำ


     อากาศเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการหายใจของสิ่งมีชีวิต ถ้าขาดอากาศ สิ่งมีชีวิตจะไม่สามารถ

ดำรงชีวิตอยู่ได้

     อากาศช่วยปรับอุณหภูมิของโลกให้พอเหมาะ โดยทำหน้าที่คล้ายเครื่องปรับอุณหภูมิไม่ให้

ร้อนหรือเย็นเกินไป นอกจากนั้นบรรยากาศที่ห่อหุ้มโลกยังทำหน้าที่กรองและดูดรังสีอุลตราไว

โอเลตหรือแสงเหนือม่วงไว้ ไม่ให้ผ่านเข้าสู่โลกชั้นในมากจนเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต

ช่วยป้องกันอันตรายจากสิ่งที่มาจากภายนอกโลก เช่น อุกกาบาต ขยะอวกาศ 

ทำให้เกิดเมฆฝน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการทำเกษตรกรรมในประเทศ